ฝ้า คือสภาวะที่ผิวหนังบางจุดเกิดสีเข้มขึ้นกว่าปกติ หรือ เกิดเม็ดสีส่วนเกิน ทำให้สีผิวดูไม่สม่ำเสมอ ถึงแม้จะไม่ส่งผล ทางด้านร่างกายแต่ส่งผลกระทบต่อความมั่นใจและจิตใจ ได้มากที่สุด ซึ่งปัจจัยที่ส่งผลกระตุ้นเกิดการสร้างเม็ดสี ที่ผิดปกติได้จากหลากหลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยจาก ฮอร์โมนภายในร่างกาย และ ปัจจัยจากสภาวะแวดล้อม ภายนอก
ฝ้า คือสภาวะที่ผิวหนังบางจุดเกิดสีเข้มขึ้นกว่าปกติ หรือ เกิดเม็ดสีส่วนเกิน ทำให้สีผิวดูไม่สม่ำเสมอ ถึงแม้จะไม่ส่งผล ทางด้านร่างกายแต่ส่งผลกระทบต่อความมั่นใจและจิตใจ ได้มากที่สุด ซึ่งปัจจัยที่ส่งผลกระตุ้นเกิดการสร้างเม็ดสี ที่ผิดปกติได้จากหลากหลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยจาก ฮอร์โมนภายในร่างกาย และ ปัจจัยจากสภาวะแวดล้อม ภายนอก
Why Melasma caused?
เป็นกลไกอัตโนมัติของร่างกายที่เกิดขึ้นเพื่อปกป้องเซลล์ผิวหนังจากการถูกทำลายด้วยแสงแดดและรังสียูวี ทำให้ผิวมีสีเข้มขึ้น และ เนื่องจากผิวของเรานั้น ไม่ได้เรียบเสมอกันทั้งหมด ทำให้ผิวแต่ละส่วนได้สัมผัสกับแสงแตกต่างกันออกไป บริเวณที่สัมผัสแสงมากกว่าก็จะเกิดการกระตุ้นให้สร้างเม็ดสีมากกว่า ส่งผลให้เกิดจุดด่างดำ รอยหมองคล้ำ รวมไปถึงฝ้าและกระตามบริเวณต่าง ๆ บนใบหน้าได้
สาเหตุในการเกิดปัญหา คือ “แสงแดด” และ “รังสีอัลตราไวโอเล็ต (ยูวี)” นั่นเอง เมื่อผิวถูกกระตุ้นด้วย 2 ปัจจัยนี้ สิ่งที่ตามมาก็คือผิวจะกระตุ้นให้เซลล์เมลาโนไซต์ (Melanocytes) ที่อยู่ชั้นล่างผิวหนังกำพร้า ให้สร้างเม็ดสีที่เรียกว่า “เมลานิน” ขึ้นมาที่ชั้นผิวดังกล่าว มากขึ้น
โดยทั่วไปแล้วจะขึ้นอยู่กับเชื้อชาติและสีผิว โดยคนยุโรปมักพบว่าไม่ค่อยเป็นฝ้า แต่จะเป็นกระแทน ส่วนคนผิวคล้ำอย่างอินเดีย นิโกร ไม่ค่อยพบปัญหาฝ้าและกระเนื่องจากมีผิวคล้ำโดยธรรมชาติ กลไกการปกป้องของผิวจึงมีมากกว่า
ส่วนใหญ่มักเป็นในคนวัยกลางคน ที่เมื่ออายุมากขึ้นจะมีโอกาสเป็นฝ้า – กระมากขึ้น ซึ่งเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่น ฮอร์โมนเพศหญิง ฮอร์โมนไทรอยด์ เป็นต้น
ซึ่งมีสารบางชนิดที่ส่งผลให้ผิวดำคล้ำขึ้นเมื่อถูกแสง เช่น โซลาเรน มักพบได้ในน้ำหอมบางชนิด เป็นต้น
การยิงเลเซอร์รักษาผิวหน้าที่มีการตั้งค่าลำแสงที่กระทบต่อผิวหน้ามากเกินไป จนเกิดอาการเบิร์นหรือผิวหน้าไหม้ จนเกิดเป็นสีผิวคล้ำอย่างรุนแรง
เมื่อเกิดการกระตุ้นจากสาเหตุดังกล่าวข้างต้นแล้วนั้นเซลล์ผิวจะเริ่มการสร้างเม็ดสีที่ผิดปกติและดันขึ้นมาสะสมที่ผิวหนังชั้นบน จนหนาแน่นกลายเป็นสีดำคล้ำและไม่ผลัดออก หากทำการรักษาแบบผิดวิธีหรือปิดจบไม่ทุกกลไกการเกิดฝ้าแล้วนั้นที่มีอยู่มากกว่า 20 เส้นทางที่เป็นเส้นทางการผลิตเม็ดสีทั้งหมดของผิวหนัง ก็จะทำให้เซลล์เกิดการสร้างเม็ดสีอยู่มากขึ้นเรื่อยๆ และวนกลับมาเป็นซ้ำได้อีก
(ฝ้าตื้น , Epidermal Type)
มักเห็นขอบเขตชัดเจน มีสีน้ำตาลเข้ม
(ฝ้าลึก , Dermal Type)
ขอบเขตของฝ้ามักไม่ชัดเจน เห็นเป็นสีน้ำตาลอ่อน หรือน้ำตาลเทา บางครั้งแยกได้ยากจากผิวปกติ
โดยรอบ โดยเฉพาะในคนที่มีสีผิว ค่อนข้างเข้มอยู่เดิม
(Mixed Type)
เป็นชนิดที่พบได้มาก โดยพบร่วมกันทั้งฝ้าตื้นและฝ้าลึก
(Indeterminate Type)
พบในผู้ป่วยที่มีสีผิวเข้มมาก ทำให้ไม่สามารถแยกได้ชัดเจนว่าฝ้าเกิดอยู่ในผิวหนังชั้นหนังกำาพร้า หรือ หนังแท้
การผลัดเซลล์ผิวด้วยสารเคมี (Chemical Peeling), การขัดผิวหน้าด้วยเกร็ดอัญมณี (Microdermabrasion) และ การใช้เลเซอร์/แสงในระดับที่เหมาะสม (Laser/Light Therapy)
อาธิเช่น vitamin A acid, glycolic acid, salicylic acid
อาธิเช่น Arbutin, kojic acid, licorice, ทรานซามีน
การลดการขนส่งเม็ดสีจากเซลล์เมลาโนไซด์ไปยังเซลล์ผิวชั้นหนังกำพร้า การทำลายเม็ดสีเมลานินภายในเซลล์ (เมลาโนไซด์, เคราติโนไซด์) : Q-switched laser, Fractional laser, Picosecond Laser วิธีการนี้เป็นขั้นตอนที่ Sensitive ต่อผิวผู้ที่เป็นฝ้าสะสมอย่างมาก ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของแพทย์อย่างใกล้ชิด
คุณหมอและทีมผู้เชี่ยวชาญได้ทำการวิเคราะห์ปัจจัยต่างๆ วางแผนการรักษาแบบองค์รวม สำหรับเฉพาะบุคคล (Holistic care therapy for individual) เป็นขั้นตอนดังนี้
ส่ง blood circulation ออกซิเจน สารอาหารเหลว วิตามิน เพื่อให้ผิวสุขภาพแข็งแรง
ใช้เอนไซม์ย่อยเนื้อผิวที่เสียออก และ กระตุ้นการสร้าง เนื้อผิวใหม่จากภายในชั้นผิว และ จากตัวคนไข้เอง
ทำลายเม็ดสีเสียจาก ภาวะหน้าติดสาร ฝ้าฮอร์โมน ด้วยการวางแผนการรักษารายบุคคลเพื่อให้เหมาะกับเพศและปัญหา
สร้างหลอดเลือดเพื่อเพิ่มการไหลเวียน และ นำสารอาหาร วิตามิน และ ออกซิเจนมาเลี้ยงเนื้อผิวขึ้นมา ด้วยกระบวนการ cell therapy (เซลล์ซ่อมเซลล์ และเซลล์สร้างเซลล์)
ใช้สารกระตุ้นการสร้างเม็ดสี ขึ้นมาใหม่ เพื่อทำหน้าที่แทนเม็ดสีที่ถูกสลายไปแล้ว
วางแผนป้องกัน การกลับมาเป็นซ้ำ และฟื้นฟูเซลผิวใหม่ รวมถึงบำรุงผิวให้แข็งแรง
กระตุ้นผิว และ ภายในตัวคนไข้ให้แข็งแรง และ ดูแลตนเองได้ เพื่อการหายขาดและยั่งยืน
คุณหมอและทีมผู้เชี่ยวชาญได้ทำการวิเคราะห์ปัจจัยต่างๆ วางแผนการรักษาแบบองค์รวม สำหรับเฉพาะบุคคล (Holistic care therapy for individual) เป็นขั้นตอนดังนี้
สร้างภูมิคุ้มกัน ส่ง blood circulation ออกซิเจน สารอาหารเหลว วิตามิน เพื่อให้ผิวสุขภาพแข็งแรง
ใช้เอนไซม์ย่อยเนื้อผิวที่เสียออก และ กระตุ้นการสร้าง เนื้อผิวใหม่จากภายในชั้นผิว และ จากตัวคนไข้เอง
ทำลายเม็ดสีเสียจาก ภาวะหน้าติดสาร ฝ้าฮอร์โมน ด้วยการวางแผนการรักษารายบุคคลเพื่อให้เหมาะกับเพศและปัญหา
สร้างหลอดเลือดเพื่อเพิ่มการไหลเวียน และ นำสารอาหาร วิตามิน และ ออกซิเจนมาเลี้ยงเนื้อผิวขึ้นมา ด้วยกระบวนการ cell therapy (เซลล์ซ่อมเซลล์ และเซลล์สร้างเซลล์)
ใช้สารกระตุ้นการสร้างเม็ดสี ขึ้นมาใหม่ เพื่อทำหน้าที่แทนเม็ดสีที่ถูกสลายไปแล้ว
วางแผนป้องกัน การกลับมาเป็นซ้ำ และฟื้นฟูเซลผิวใหม่ รวมถึงบำรุงผิวให้แข็งแรง
กระตุ้นผิว และ ภายในตัวคนไข้ให้แข็งแรง และ ดูแลตนเองได้ เพื่อการหายขาดและยั่งยืน
ลูกค้าต้องเดินทางมาด้วยตนเองที่คลินิกเพื่อประเมินสภาพผิวเบื้องต้นกับคุณหมอและวางแผนการรักษาร่วมกันกันรวมถึงการรักษาวิธีนี้จะให้ผลลัพธ์ที่เห็น ผลค่อนข้างไว และ รักษาได้ลึกถึงชั้นเซลล์ผิว เนื่องจากลูกค้าจะได้รับในส่วนของตัวยาที่มีอายุการใช้งานครบและเต็มประสิทธิภาพรวมถึง เครื่องมือเทคนิคทางการแพทย์ที่คลินิกมีสามารถส่งตัวยาที่ผสมโดยสูตรของแต่ละคนเข้าสู่ชั้นผิวได้ลึกที่สุด
รวมถึงจะทราบในส่วนของงานวิจัย ที่มีอาหารต้องงดและการใช้ชีวิตจำวัน ที่ต้องหลีกเลี่ยงเพื่อรักษาผลลัพธ์ของตัวฝ้า หรือพันธะเม็ดสีเสียนี้ให้ดีที่สุดและส่งผลชัดเจนที่สุด ซึ่งจะมีในส่วนของเวชสำอาง และ ตัวยาทานรักษาควบคู่ไปด้วย
โดยวิธีนี้ผลลัพธ์ในการรักษาจะต้องผสมตัวน้ำยา ที่ไม่สามารถใส่ในส่วนของตัวยาที่มีอายุการใช้งานระยะสั้นได้ อาจจะได้รับตัวน้ำยาที่ฟื้นฟูไม่เต็มที่ และเป็นสูตรตัวน้ำยาที่รักษาและเก็บได้นานเฉพาะทางไกลเท่านั้นซึ่งผลลัพธ์และเครื่องมือในส่วนของขั้นตอนนี้อาจจะเห็นผลช้ากว่าการเดินทางมารักษาที่คลินิก 50%ถึง 60% แล้วแต่ผิวและประเภทฝ้าของแต่ละบุคคลคน
ซึ่งทางนี้จะมีในส่วนของยาทานเวชสำอางค์ส่งควบคู่ไปด้วย และมีเครื่องมือผลักตัวยาทดแทนให้ ซึ่งจะมีอยู่สามสูตรให้เลือกด้วยกันตามแต่พื้นผิวและที่ลูกค้าสะดวก
Problems
082 474 2969
99/7 หมู่ 3 ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี
8:00 - 19:00 น.
(หยุดวันพุธ)