ฝ้าคืออะไร สาเหตุ อาการ และวิธีรักษาฝ้า

ฝ้าคืออะไร? สาเหตุ อาการ และวิธีรักษาฝ้า

ฝ้าคืออะไร? ฝ้า คือ ปัญหาผิวชนิดหนึ่งที่พบได้บ่อย มักเกิดขึ้นบนใบหน้า ในลักษณะของรอยคล้ำ สีน้ำตาล หรือดำ มักพบในบริเวณหน้าผาก โหนกแก้ม แก้มบน ริมฝีปากบน

เลือกอ่าน

สาเหตุของฝ้า เกิดจากหลายปัจจัย ดังนี้

  • แสงแดด: เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดฝ้า เมื่อผิวหนังสัมผัสแสงแดด ร่างกายจะผลิตเม็ดสีเมลานินเพื่อปกป้องผิว แต่หากได้รับแสงแดดมากเกินไป เม็ดสีเมลานินจะกระจายตัวไม่สม่ำเสมอ เกิดเป็นฝ้า
  • ฮอร์โมน: การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่น ในช่วงตั้งครรภ์ ให้นมบุตร หรือรับประทานยาคุมกำเนิด กระตุ้นให้เกิดฝ้าได้
  • พันธุกรรม: ผู้ที่มีบุคคลในครอบครัวเป็นฝ้า มีโอกาสเป็นฝ้าได้มากกว่าบุคคลทั่วไป
  • ความเครียด: ความเครียด ส่งผลต่อระบบฮอร์โมน กระตุ้นให้เกิดฝ้าได้
  • ยาบางชนิด: ยาบางชนิด เช่น ยาต้านการอักเสบ ยาคลายกังวล ยาขับปัสสาวะ อาจทำให้เกิดฝ้าได้
 

อาการของฝ้าคืออะไร

  • รอยคล้ำ สีน้ำตาล หรือดำ บนใบหน้า
  • มักพบในบริเวณหน้าผาก โหนกแก้ม แก้มบน ริมฝีปากบน
  • รอยคล้ำอาจมีขอบเขตชัดเจน หรือไม่ชัดเจนก็ได้
  • ฝ้าอาจมีสีเข้มขึ้น หรือจางลง ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น แสงแดด ฮอร์โมน
 
 

การป้องกันฝ้า

  • ทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน SPF 30 ขึ้นไป
  • หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยเฉพาะช่วง 10.00 – 16.00 น.
  • สวมหมวก กางร่ม ใส่เสื้อแขนยาว เพื่อป้องกันแสงแดด
  • ทายาที่มีส่วนผสมของวิตามินซี วิตามินอี
  • ทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
  • ลดความเครียด
 
 

ฝ้า: ปัญหาผิวที่รักษาไม่หายขาด แต่สามารถป้องกันได้

ฝ้า เป็นปัญหาผิวที่สร้างความกังวลให้กับผู้คนจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้หญิง  แม้จะรักษาให้หายขาดได้ยาก แต่สามารถลดเลือนรอยฝ้า และป้องกันการเกิดฝ้าใหม่ได้  บทความนี้ จะช่วยให้คุณเข้าใจฝ้ามากขึ้น

 

ประเภทของฝ้า

ฝ้าสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท ดังนี้

  • ฝ้าตื้น: เกิดขึ้นบริเวณชั้นหนังกำพร้า มักมีสีน้ำตาลเข้ม ขอบเขตชัดเจน ตอบสนองต่อการรักษาได้ดี
  • ฝ้าลึก: เกิดขึ้นบริเวณชั้นหนังแท้ มักมีสีน้ำตาลอ่อน ขอบเขตไม่ชัดเจน ตอบสนองต่อการรักษาได้ยาก
  • ฝ้าผสม: เป็นการผสมผสานระหว่างฝ้าตื้นและฝ้าลึก
 
 

ปัจจัยที่กระตุ้นให้ฝ้าเกิด

  • แสงแดด: เป็นปัจจัยหลัก แสงแดดกระตุ้นให้เซลล์สร้างเม็ดสีเมลานินมากขึ้น
  • ฮอร์โมน: การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่น ในช่วงตั้งครรภ์ ให้นมบุตร หรือรับประทานยาคุมกำเนิด กระตุ้นให้เกิดฝ้าได้
  • พันธุกรรม: ผู้ที่มีบุคคลในครอบครัวเป็นฝ้า มีโอกาสเป็นฝ้าได้มากกว่าบุคคลทั่วไป
  • ความเครียด: ความเครียด ส่งผลต่อระบบฮอร์โมน กระตุ้นให้เกิดฝ้าได้
  • ยาบางชนิด: ยาบางชนิด เช่น ยาต้านการอักเสบ ยาคลายกังวล ยาขับปัสสาวะ อาจทำให้เกิดฝ้าได้
 
 

ผลกระทบจากฝ้า

  • ความมั่นใจ:
    การมีฝ้าบนใบหน้าอาจทำให้มีความมั่นใจลดลง เนื่องจากมองคล้ำและไม่สดใส เป็นปัจจัยที่สามารถส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ภายนอกของที่เป็นฝ้าได้
  • ความสัมพันธ์:
    การมีฝ้าอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของบุคคล เนื่องจากมีผลต่อภาพลักษณ์ภายนอกที่อาจทำให้คนเป็นฝ้านั้น รู้สึกไม่สบายใจหรือไม่มั่นใจในการสร้างปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น ๆ
  • ปัญหาสุขภาพจิต:
    การมีฝ้าบนใบหน้าอาจมีผลต่อสุขภาพจิตของคนเป็นได้ โดยอาจเกิดความวิตกกังวลหรือภาวะซึมเศร้าเนื่องจากความไม่พอใจในรูปลักษณ์ของตนเอง การมีความรู้สึกไม่พอใจหรือไม่มั่นใจในรูปลักษณ์ที่มีฝ้าสามารถเป็นปัจจัยที่มีผลต่อสุขภาพจิตทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
 

สรุป

การดูแลรักษาฝ้าไม่เพียงแต่ทำให้ภาพลักษณ์ดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังมีผลดีต่อความมั่นใจ ความสัมพันธ์ และสุขภาพจิตของคนเป็นฝ้าได้ทั้งหมด

Problems

ถ้าปัญหาเหล่าคือสิ่งที่คุณเคยเจอมา

ปัญหาเรื่องฝ้า
Share the Post: